การให้แสงสว่างฉุกเฉิน ( Emergency Lighting )เป็นการให้แสงสว่างเมื่อแหล่งจ่ายไฟฟ้าปกติล้มเหลว การให้แสงสว่างฉุกเฉินรวมถึง การให้แสงสว่างเพื่อการหนีภัย ( Escape Lighting ) และการให้แสงสว่างสำรอง ( Standby Lighting )
MODEL |
HEAD LAMP |
BATTERY CAPACITY |
BACK UP TME (Hrs.Mins)+-10% |
DIMENSION (mm) |
WEIGHT (kgs.) |
BULB |
WATT |
L |
W |
HB |
HL |
NAU 220 CL 1 |
2 |
20 |
12V-7Ah |
1.5 |
295 |
80 |
180 |
310 |
5.6 |
NAU 225 CL 1 |
25 |
1 |
NAU 220 CL 2 |
20 |
12V-9Ah |
2 |
6.9 |
NAU 225 CL 1 |
25 |
1.5 |
NAU 220 CL 3 |
20 |
12V-12Ah |
3 |
295 |
110 |
180 |
310 |
7.3 |
NAU 225 CL 2 |
25 |
2 |
NAU 235 CL 1 |
35 |
1.5 |
NAU 255 CL 1 |
55 |
1 |
NAU 235 CL 2 |
35 |
12V-15Ah |
2 |
335 |
95 |
215 |
345 |
9.7 |
NAU 220 CL 4 |
20 |
12V-18Ah |
4 |
9.9 |
NAU 235 CL 3 |
35 |
3 |
NAU 250 CL 2 |
50 |
12V-21Ah |
2 |
10.7 |
NAU 235 CL 3 |
35 |
12V-26Ah |
3.5 |
350 |
140 |
225 |
356 |
13.9 |
NAU 250 CL 2 |
50 |
2.3 |
NAU 255 CL 2 |
55 |
2 |
SPECIFICATION
|
Mode Operation |
Non - Maintained |
Input Voltage |
220 Vac/50 Hz +/- 10% |
Lighting Unit |
Dichroicc Power LED Lamp Sealed Beam |
Type Of Battery |
"SUNNY" Sealed lead Acid Maintenance Free , iso 9001 & Certifind CE and UL Underwriters Laboratories lnc. |
Battery Charge |
Automatic Battery Charger, Solid - State Trickle Charge, Constant Voltage Charging Period 10 -15 Hrs |
Protections |
A.C. Fuse to prevent short circuit and over load for A.C. Input |
Housing |
Zinc Steel sheet |
วิธีการติดตั้ง (Installation) วิธีการติดตั้งโคมไฟฉุกเฉิน
1. โคมไฟฉุกเฉินติดตั้งแบบตั้งบนพื้นรับหรือแขวนติดกับผนัง
2. หลังจากติดตั้งแล้ว
- รุ่น SN SERIES ให้เปิดสวิทซ์ ON แล้วหลอดจะติดสว่าง
- รุ่น SAU SERIES ให้กดสวิทซ์ R และ L แล้วหลอดจะติดสว่าง
- รุ่น NAU SERIES ให้กดสวิทซ์ R และ L แล้วหลอดจะติดสว่าง
3. เสียบปลั๊กโคมไฟฉุกเฉินเข้ากับปลั๊กไฟบ้านหลอดไฟจะดับ ข้อสังเกต
- LED “AC” สีเหลืองจะติดสว่างแสดงว่าไฟเข้าเครื่องแล้ว
- LED “CHARGE” สีแดงจะติดสว่างเมื่อโคมไฟกำลังชาร์จแบตเตอรี่
- LED “FULL CHARGE” สีเขียวติดสว่างแสดงว่าแบตเตอรี่เต็ม
- LED สีเขียวอยู่เหนือสวิทซ์สว่าง (รุ่น SN) แสดงการตรวจเช็คหลอดไฟ
- LED “OVER CHARGE” สีแดงจะต้องไม่ติดถ้าติดแสดงว่า FUSE ชาร์จขาด
4. ทดสอบวงจรและแบตเตอรี่โดยการกดสวิทซ์ TEST แล้วปล่อย หลอดไฟจะติดชั่วขณะหนึ่ง แล้วก็จะดับไป
5. จำลองเวลาไฟดับ โดยการดึงปลั๊กไฟของตัวโคมไฟฉุกเฉินออก หลอดไฟจะติดสว่า
6. เสียบปลั๊กกลับเพื่อให้โคมไฟพร้อมใช้งานเวลาไฟดับ
ข้อควรระวัง ไม่ควรติดตั้งโคมไฟฟ้าฉุกเฉินติดกับผนังที่ รับความร้อนสูง เพราะจะทำให้อายุของแบตเตอรี่เสื่อมเร็วกว่าปกติและในห้องที่มีความชื้นสูง เช่นห้องเย็น เพราะจะทำให้ตัวสินค้าเกิดสนิม และลัดวงจรเนื่องจากความชื้น
การแก้ไขเบื้องต้น (Preliminary Remedy)
|
อาการ |
การแก้ไขปัญหาเบื้องต้น |
1. เสียบปลั๊กแล้วไม่มีไฟเข้าเครื่อง LED AC POWER ไม่ติด |
- ตรวจสอบว่าปลั๊กมีไฟหรือไม่ หรือปลั๊กหลวม และตรวจสอบ AC.FUSE ว่าขาดหรือไม่ |
2. ไฟดับหรือดึงปลั๊กออกหลอดไม่ติด |
- ตรวจสอบว่าสวิทซ์อยู่ตำแหน่ง ONหรือไม่ วงจรมีปัญหา หรือแบตเตอรี่เสื่อมเรียกฝ่ายบริการ |
3. ระยะเวลาการใช้งานน้อยกว่าสเปคที่ระบุไว้ |
- ให้เสียบชาร์จไว้ 1 วัน แล้วดึงปลั๊กใหม่ , วงจรเสีย หรือแบตเตอรี่เสื่อมเรียกฝ่ายบริการ |
|
|
คู่มือการใช้บริการ (User Manual) และการบำรุงรักษาเครื่องไฟฉุกเฉินอัตโนมัติ "SUNNY" |
โคมไฟฉุกเฉินอัตโนมัติ “SUNNY” จะอยู่ในสภาวะพร้อมใช้งานตลอดเวลา (Stand By) และมีวงจรประจุแบตเตอรี่อัตโนมัติอยู่ใน เครื่อง ( Automatic Battery Charger ) หากเกิดกรณีไฟฟ้าขัดข้องโคมไฟฉุกเฉินก็จะให้แสงสว่างอัตโนมัติแก่ผู้ใช้งานเมื่อไฟจาก การไฟฟ้ามาเป็นปกติหลอดไฟก็จะดับเอง และวงจรชาร์จก็จะทำการประจุแบตเตอรี่เพื่อให้โคมไฟฉุกเฉินพร้อมใช้งานต่อไป โคมไฟฉุกเฉิน “SUNNY” จะมีวงจรป้องการใช้แบตเตอรี่จนประจุหมด (Low Voltage Cut-Of) ที่ค่า 1.6-1.7 V/Call ตามมาตรฐาน
|
โคมไฟฉุกเฉิน “SUNNY” เป็นยี่ห้อเดียวที่มีชุด “Under Voltage” วงจรตรวจเช็คแรงดันจากการไฟฟ้า ต่ำกว่า 150-160 VAC. โคมไฟฉุกเฉินจะให้แสงสว่างสำรองเหตุผลที่มีก็เพราะว่า แรงดันค่านี้หลอดไฟทั่วไปนั้นจะดับไปแล้ว ในการใช้งานโคมไฟฉุกเฉินนั้นถ้าต้องการให้แสงสว่างยาวนานขึ้นก็ให้ใช้งานเพียงหลอดเดียวก็จะได้ระยะเวลาเพิ่มอีกเท่าตัว
|
การดูแลรักษาเครื่องหลังการติดตั้งเครื่องไฟฉุกเฉินทางฝ่ายช่างปะจำอาคารที่ทำการติดตั้งเครื่องไฟฉุกเฉิน ควรปฏิบัติดังนี้
|
ควรมีการตรวจสอบระบบการทำงานของเครื่องไฟฉุกเฉินทุกๆเดือน ต้องทดสอบอย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง โดยมีวิธีทดสอบ ดังนี้
|
1. กดสวิทซ์ “TEST” ว่าเครื่องทำงานเป็นปกติหรือไม่
2. ถอดปลั๊กไฟของเครื่องไฟฉุกเฉินออก หลอดไฟฉุกเฉินที่ต่ออยู่กับเครื่องติดสว่าง โดยให้ปล่อยทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที หรือปล่อยทิ้งไว้จนกระทั่งวงจรรักษาแบตเตอรี่ (Automatic Low Voltage Cut-Off System) ของเครื่องไฟฉุกเฉินตัดการทำงานโดยอัตโนมัติ หลังจากทดสอบเสร็จ ให้เสียบปลั๊กไฟของเครื่องไฟฉุกเฉินเข้ากับเต้าเสียบเหมือนเดิมตามปกติ
เพื่อเป็นการบำรุงรักษาแบตเตอรี่ถ้าทำได้ทุกเดือนแบตเตอรี่จะใช้งานได้นาน 3 – 5 ปี
3. กรณีที่ซื้อเครื่องไปแล้ว แต่ยังไม่ได้ทำการติดตั้งระยะเวลา 1 เดือน ให้นำเครื่องมาชาร์จเป็นเวลา 10-15 ชม. เพื่อให้แบตเตอรี่พร้อมใช้งานอยู่ตลอดเวลา
|
หมายเหตุ
สาเหตุที่ต้องมีการทดสอบระบบเครื่องไฟฉุกเฉิน ทุกๆเดือน มีดังนี้
1. แบตเตอรี่จะต้องได้รับการคายและชาร์จประจุเพราะถ้าแบตเตอรี่ไม่มีการคายและชาร์จประจุแบตเตอรี่จะเกิดการเสื่อมสภาพของสารเคมีที่มีภายในแบตเตอรี่ ทำให้เกิดการลัดวงจรของเซลล์แบตเตอรี่ มีผลทำให้ตัวแบตเตอรี่เสีย หรือเสื่อมสภาพการทำงานและหมดอายุการใช้งานเร็วขึ้น
2. ทดสอบการทำงานของอุปกรณ์เครื่องไฟฉุกเฉินว่าทำงานเป็นปกติหรือไม่ถ้าการทำงานไม่เป็นปกติ ให้รีบแจ้งฝ่ายบริการของทางบริษัทฯ ทันที
|
คุณสมบัติทั่วไปของไฟฉุกเฉิน
- แรงดันไฟฟ้าเข้า AC 220 Volt 50 Hz,+,- 10%, 1 Phase.
- ชนิดมีแบตเตอรี่พร้อมใช้งานและระบบควบคุมอัตโนมัติแบบ Solid State ที่ควบคุมการประจุกระแสไฟฟ้าเข้า และกระจายประจุของแบตเตอรี่
อย่างแม่นยำ โดยระบบควบคุมมีการตัดวงจรเมื่อมีการคายประจุจากแบตเตอรี่ถึงขีดแรงดันไฟฟ้าที่จะเป็นอันตรายต่อแบตเตอรี่
- แบตเตอรี่ชนิด Sealed Lead Acid Battery หรือ Nickel Cadmium ขนาดแรงดัน DC 6 Volt หรือ 12 Volt โดยมีประจุขนาดกำลังสามารถ
จ่ายกระแสไฟฟ้าให้กับหลอดไฟฉุกเฉิน
- ระบบประจุแบตเตอรี่ควบคุมประสิทธิภาพด้วย IC (Integrate Circuit) ที่ให้ความแม่นยำเที่ยงตรงสูงสามารถประจุไฟฟ้าเข้าแบตเตอรี่ได้เต็ม
ความจุของแบตเตอรี่
: Constant Voltage Charge System สำหรับแบตเตอรี่ Sealed Lead Acid หรือ
: Constant Current Charge System สำหรับแบตเตอรี่ Nickel Cadmium
- ระบบการทดสอบเพื่อจำลองความล้มเหลวของแหล่งจ่ายไฟฟ้าปกติ AC Line
: แบบธรรมดา (Manual Test) หรือ
: แบบอัตโนมัติ (Automatic Time Test System) (Option)
- สวิตซ์เพื่อปิดหลอดไฟฉุกเฉินขณะที่เกิดความล้มเหลวของแหล่งจ่ายไฟฟ้าปกติ AC Line เพื่อเป็นการประหยัดไฟจากแบตเตอรี่ในเวลา
ที่ไม่จำเป็นต้องใช้งาน
ระบบป้องกัน (Protection System)
1. ระบบป้องกันแบตเตอรี่คุณภาพสูง ทำให้อายุการใช้งานของแบตเตอรี่ยาวนานกว่า
- ป้องกันการคายประจุจากแบตเตอรี่ถึงแรงดันไฟฟ้าที่จะเป็นอันตรายต่อแบตเตอรี่ (Low Voltage Cut - Off)
- ป้องกันการประจุกระแสไฟฟ้าเข้าแบตเตอรี่ถึงแรงดันที่เป็นอันตรายต่อแบตเตอรี่ (Hight Voltage Cut - Off)
2. ระบบป้องกันการลัดวงจร
- AC Protection ป้องกันการลัดวงจรทางด้านแรงดันไฟฟ้าเข้า AC Line
- DC Protection ป้องกันการลัดวงจรทางด้านระบบวงจรประจุกระแสไฟฟ้าเข้าแบตเตอรี่
- มีช่องระบายความร้อนอย่างพอเพียง และมีอุปกรณ์ประกอบ เช่น
: Test Button
: ON/OFF Button
: Indicating Lamp
- สามารถเพิ่มเติมและปรับเสริมอุปกรณ์พิเศษได้ตามความต้องการ เช่น
: ระบบทดสอบระยะไกลแบบไร้สาย (Wireless Remote Test) ด้วยรีโมทแบบอินฟราเรด (Infrared Remote Test) และระบบทดสอบ
การทำงานอัตโนมัติ (Automatic Time Test System) เป็นต้น