เครื่องตัดไฟรั่ว (circuit breaker) เป็นอุปกรณ์ไฟฟ้าซึ่งทำหน้าที่ตรวจจับเหตุการณ์ไฟฟ้ารั่ว และ
ทำการตัดไฟเพื่อรักษาชีวิตของผู้ที่ถูกไฟฟ้าดูด รวมทั้งป้องกันทรัพย์สินเสียหายเนื่องจากไฟไหม้ที่เกิดจาก
ไฟฟ้ารั่วเป็นปริมาณมาก, โดยปกติจะติดตั้งที่แผงไฟหลักของบ้านพักอาศัย หรือในส่วนของบ้านที่มีความ
เสี่ยงในการเกิดไฟฟ้าดูดเป็นพิเศษ (เช่น ห้องน้ำที่มีการใช้เครื่องทำน้ำอุ่นไฟฟ้า, เครื่องโกนหนวด หรือ
เครื่องเป่าผม)
เครื่องตัดไฟรั่วมี 2 ประเภท
1.เครื่องตัดไฟรั่วแบบตรวจจับแรงดัน ทำงานโดยวัดศักย์ไฟฟ้าที่ตัวถังโลหะของเครื่องใช้เทียบ
กับหลักดินที่ติดตั้งแยกต่างหาก หากมีความต่างศักย์มากเกินค่าที่กำหนดไว้ (ปกติจะตั้งไว้ที่ 50 โวลต์) ก็จะ
ทำการตัดไฟ, ปัจจุบันเครื่องตัดไฟรั่วชนิดนี้ไม่นิยมใช้แล้ว เนื่องจากความยุ่งยากในการติดตั้ง (ต้องต่อสาย
แยกจากตัวถังเครื่องไฟฟ้ามาที่เครื่องตัดไฟรั่ว และต่อสายจากเครื่องตัดไฟรั่วไปยังหลักดิน) และการป้องกัน
ที่ไม่ครอบคลุมในกรณีที่เกิดการรั่วจากตัวถังส่วนที่ไม่ได้ทำการวัด
2.เครื่องตัดไฟรั่วแบบตรวจจับกระแส ทำงานโดยการเทียบปริมาณกระแสไฟฟ้าที่ไหลเข้าวงจรกับ
ปริมาณที่ไหลออกจากวงจร หากปริมาณไหลออกน้อยกว่าที่ไหลเข้า แสดงว่าในวงจรมีไฟฟ้ารั่วไหลออกไป
ภายนอก, หากปริมาณการรั่วไหลมากเกินที่กำหนดไว้ (ปกติจะตั้งไว้ที่ 30 มิลลิแอมป์) ก็จะทำการตัด
ไฟ, เครื่องตัดไฟรั่วประเภทนี้จะไม่ใช้หลักดิน ทำให้สามารถติดตั้งได้แม้ในระบบไฟฟ้าที่ไม่มีสายดิน
โดยปกติ การติดตั้งเครื่องตัดไฟรั่วจะทำในลักษณะเดียวกับสะพานไฟ (ติดตั้งคั่นสายไฟเข้าวงจรที่
ต้องการจะตรวจจับและตัดไฟ), เนื่องจากลักษณะนี้เอง จึงมักมีการรวมความสามารถให้สามารถตัดกระแส
ไฟฟ้าเกินในลักษณะเดียวกับเบรกเกอร์ปกติเข้าไปในอุปกรณ์ชิ้นเดียวกันด้วย
https://www.youtube.com/watch?v=YkQnLMu6e1k (คลิ๊กที่ลิ้งเพื่อดูวิดีโอความรู้จากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค)
|